EMA adalah apa itu indikator yang tidak boleh diabaikan oleh trader

ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล หรือ EMA ถือเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีความสำคัญสูงสุดสำหรับผู้เทรดทั้งมือใหม่และมืออาชีพ เนื่องจากสามารถจับภาพการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มตลาดในเวลาจริงได้ดีกว่าเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ ความพิเศษของ EMA นั่นคือการให้ความสำคัญกับราคาล่าสุดมากขึ้น ซึ่งทำให้มีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคามากกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบทั่วไป (SMA) ที่พิจารณาข้อมูลทั้งหมดอย่างเท่าเทียมกัน

EMA คืออะไรในแกน หลักของการเทรด

ในโลกของการเทรดนั้น EMA เป็นอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคที่ให้ความสำคัญกับข้อมูลราคาล่าสุดมากกว่า เนื่องจากใช้สูตรแบบเลขชี้กำลัง นี่ทำให้สามารถตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของตลาดได้เร็วกว่า SMA โดยเทรดเดอร์มักใช้ EMA เพื่อระบุแนวโน้มขาขึ้นและขาลงในช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งให้น้ำหนักกับค่าล่าสุดมากกว่าค่าที่เกิดขึ้นมานานแล้ว

ประวัติและที่มาของ EMA

แนวคิดเรื่องค่าเฉลี่ยเคลื่อนไหวสามารถสืบย้อนกลับไปยังพ่อค้าข้าวญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 18 แต่รากฐานของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทางสถิติ ได้ก่อตัวขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ในปี ค.ศ. 1901 อาร์.เอช. ฮุกเกอร์ ได้นำเสนอแนวคิด “instantaneous averages” ซึ่ง จี.ยู. ยูล ได้ขยายความเพิ่มเติมในปี ค.ศ. 1909 โดยให้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า “ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่”

ต่อมา ในช่วงต้นทศวรรษ 1960 นักวิทยาศาสตร์ด้านระบบความราบรื่น ได้นำการปรับเรียบแบบเลขชี้กำลังมาใช้กับข้อมูลตลาดหุ้น ซึ่งปูทางให้สู่การใช้ EMA อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

วิธีการคำนวณ EMA ให้เข้าใจง่าย

การคำนวณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) เริ่มต้นจากการตั้งค่าเริ่มต้นโดยใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA) จากนั้นจึงใช้ตัวคูณแบบเรียบที่ให้น้ำหนักกับราคาล่าสุดมากขึ้น

ขั้นตอนที่ 1: คำนวณค่า SMA เป็นค่า EMA เริ่มต้น

นำราคาปิดของจำนวนงวดที่เลือกมาบวกกัน แล้วหารด้วยจำนวนงวดนั้น

ตัวอย่าง: สมมติว่าราคาปิด 10 ครั้งล่าสุดคือ: 22.27, 22.19, 22.08, 22.17, 22.18, 22.13, 22.23, 22.43, 22.24, 22.29

เมื่อบวกเข้าด้วยกันได้เท่ากับ 222.21 หารด้วย 10

SMA(10) = 222.21 ÷ 10 = 22.221

ค่านี้จะกลายเป็น EMA เริ่มต้น

ขั้นตอนที่ 2: หาตัวคูณแบบ Smoothing Factor

ตัวคูณนี้จะกำหนดว่าราคาล่าสุดมีอิทธิพลต่อค่า EMA มากน้อยเพียงใด

สูตร: Multiplier = 2 ÷ (N + 1)

เมื่อ N = จำนวนช่วงเวลา

ตัวอย่าง: สำหรับ N = 10

Multiplier = 2 ÷ (10 + 1) = 2 ÷ 11 = 0.1818 หรือ 18.18%

ขั้นตอนที่ 3: คำนวณค่า EMA ของวันถัดไป

สูตร: EMA = (C × Multiplier) + (EMA_prev × (1 - Multiplier)

เมื่อ:

  • C = ราคาปิดวันนี้
  • EMA_prev = EMA ของเมื่อวาน

ตัวอย่าง : ราคาปิดวันนี้ )C( = 22.15

  1. หาส่วนต่าง: 22.15 − 22.221 = −0.071
  2. คูณด้วยตัวคูณ: −0.071 × 0.1818 = −0.0129
  3. บวกกลับกับ EMA เดิม: 22.221 + )−0.0129( = 22.2081

EMA vs. SMA: ความแตกต่างสำคัญ

ด้าน EMA SMA
ปฏิกิริยาต่อความผันผวน ตอบสนองได้เร็วกว่า เนื่องจากให้ความสำคัญกับราคาล่าสุด เหมาะกับการตรวจจับการเปลี่ยนแปลงทิศทางอย่างรวดเร็ว ตอบสนองได้ช้ากว่า เนื่องจากกระจายน้ำหนักเท่าเทียมกัน เหมาะกับมุมมองระยะยาว
กรณีการใช้งาน นิยมในตลาดที่เคลื่อนไหวเร็วและกรอบเวลาสั้น เช่น Day Trading เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ระยะยาวที่ต้องการสัญญาณที่ราบรื่น
การจับภาพ จับการเปลี่ยนแปลงที่ฉับพลันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ล่าช้าเมื่อความเชื่อมั่นเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
ผลกระทบต่อการตัดสินใจ มีบทบาทมากขึ้นในการตัดสินใจระยะสั้นและกลยุทธ์การเทรด ให้มุมมองเจือจางของพฤติกรรมราคาล่าสุด

กลยุทธ์การใช้งาน EMA ในตลาดการเทรด

) กลยุทธ์ 9 EMA: จับแนวโน้มระยะสั้น

ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 9 EMA คำนวณจากราคาปิด 9 ครั้งล่าสุด ทำให้คุณเห็นเส้นบนกราฟที่ติดตามแนวโน้มราคาล่าสุดได้อย่างแม่นยำ โดยใช้กลยุทธ์นี้ คุณสามารถจับทิศทางแนวโน้มระยะสั้นหรือแม้แต่แนวโน้มรองอื่นๆ ได้อย่างชัดเจน

บนกราฟราคา EMA 9 จะแสดงเป็นเส้นเดี่ยวที่แกว่งตัวเหนือและใต้การเคลื่อนไหวของราคา ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์มองเห็นโอกาสในการเข้า-ออกได้ดีขึ้น

กลยุทธ์เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ตัดกัน ###Moving Average Crossover(

การตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่เทรดเดอร์ เนื่องจากสามารถระบุจุดเข้า-ออก แนวโน้มใหม่ และสัญญาณการกลับตัวได้อย่างชัดเจน

กลยุทธ์นี้ใช้เส้นค่าเฉลี่ยสองเส้นขึ้นไปที่มีช่วงเวลาแตกต่างกัน สัญญาณซื้อหรือขายจะเกิดขึ้นเมื่อเส้นหนึ่งตัดผ่านอีกเส้น

ตัวอย่างการใช้งาน:

  • เมื่อ EMA 9 )เส้นเร็ว( ตัดขึ้นเหนือ EMA 50 )เส้นช้า( → สัญญาณการเข้าซื้อ )แนวโน้มขาขึ้น(
  • เมื่อ EMA 9 ตัดลงใต้ EMA 50 → สัญญาณการเข้าขาย )แนวโน้มขาลง(

กลยุทธ์นี้เหมาะกับ Day Traders ที่ต้องการการตัดสินใจเร็ว โดยช่วยลดความล่าช้าจากสัญญาณให้น้อยที่สุด

) กลยุทธ์ EMA 8-13-21: ใช้ตัวเลขฟีโบนัชชี

กลยุทธ์นี้ใช้ EMA สามเส้น ด้วยค่า 8, 13 และ 21 วัน ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ไม่ใช่การสุ่ม แต่เป็นตัวเลขฟีโบนัชชี ที่มักปรากฏในปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและมีความเกี่ยวข้องในตลาดการเงิน

แต่ละเส้นให้ข้อมูลเชิงลึกต่างกัน:

  • EMA 8: จับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วที่สุด
  • EMA 13: ให้สัญญาณกลางของตลาด
  • EMA 21: แสดงแนวโน้มที่สำคัญกว่า

สัญญาณเข้า: เมื่อ EMA 8 ตัดลงมาต่ำกว่าอีกสองเส้น ถือเป็นสัญญาณการเข้าสถานะได้แล้ว

กลยุทธ์นี้มีประโยชน์เป็นพิเศษสำหรับการเก็งกำไรระยะสั้น ###Scalping( และการซื้อขายรายวัน )Day Trading(

ข้อดีของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล

) 1. ช่วยระบุและยืนยันแนวโน้มตลาด

ความสามารถในการแสดงทิศทางของตลาดได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถประเมินน้ำหนักตลาดได้ดังนี้:

  • ราคาสูงกว่า EMA: ตลาดอาจปรับตัวสูงขึ้นต่อไป ###Uptrend(
  • ราคาต่ำกว่า EMA: ตลาดอาจกำลังปรับตัวลดลง )Downtrend(

) 2. ทำหน้าที่เป็นแนวรับแนวต้านอย่างง่าย

  • แนวรับ ###พื้น(: ราคามีแนวโน้มที่จะดีดตัวขึ้นเมื่อเข้าใกล้เส้น EMA จากด้านบน
  • แนวต้าน )เพดาน(: ราคาอาจไม่สามารถปรับตัวขึ้นเหนือเส้น EMA ได้เมื่อเข้าใกล้จากด้านล่าง

) 3. ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาได้เร็วกว่า

เมื่อเทียบกับ SMA นั้น EMA ปรับตัวได้เร็วกว่าเนื่องจากให้ความสำคัญกับข้อมูลล่าสุดมากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ระยะสั้น

จุดด้อยของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล

1. มีความเป็นไปได้ที่จะสร้างสัญญาณที่ผิดพลาด

เนื่องจาก EMA ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาได้อย่างรวดเร็ว อาจตอบสนองเร็วเกินไปในช่วงที่มีสัญญาณรบกวน ซึ่งอาจนำไปสู่การกลับตัวที่ผิดพลาด

2. การพึ่งพาข้อมูลในอดีต

แม้ว่า EMA จะให้ความสำคัญกับราคาล่าสุดมากกว่า แต่ก็ยังขึ้นอยู่กับข้อมูลในอดีตทั้งหมด ข้อมูลเก่าอาจไม่สามารถทำนายอนาคตได้อย่างน่าเชื่อถือ

3. การใช้งานขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของแต่ละเทรดเดอร์

ไม่มีค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ใดที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน เทรดเดอร์ระยะสั้นนิยมใช้ EMA เพราะตอบสนองได้เร็วกว่า ในขณะที่เทรดเดอร์ระยะยาวอาจนิยมใช้ SMA เครื่องมือที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรด การยอมรับความเสี่ยง และแผนการของคุณเอง

สรุป

ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล ###EMA( ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ฟอเร็กซ์ แต่เป็นตัวบ่งชี้ทางเทคนิคสากลที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในเกือบทุกตลาด รวมถึงหุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโตเคอร์เรนซี

ความสามารถในการตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของราคาปัจจุบันได้อย่างรวดเร็วทำให้ EMA มีประโยชน์อย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจาก EMA ให้ความสำคัญกับข้อมูลล่าสุดมากกว่า จึงช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจน้ำหนักระยะสั้น มองเห็นการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มได้เร็วกว่า และรับมือกับสภาวะผันผวนได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

ไม่ว่าคุณจะวิเคราะห์ทองคำ บิตคอยน์ ดัชนีหลัก หรือคู่สกุลเงิน EMA สามารถช่วยเน้นทิศทางแนวโน้ม จุดเข้าซื้อขายที่เป็นไปได้ และพฤติกรรมของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป

Lihat Asli
Halaman ini mungkin berisi konten pihak ketiga, yang disediakan untuk tujuan informasi saja (bukan pernyataan/jaminan) dan tidak boleh dianggap sebagai dukungan terhadap pandangannya oleh Gate, atau sebagai nasihat keuangan atau profesional. Lihat Penafian untuk detailnya.
  • Hadiah
  • Komentar
  • Posting ulang
  • Bagikan
Komentar
0/400
Tidak ada komentar
  • Sematkan

Perdagangkan Kripto Di Mana Saja Kapan Saja
qrCode
Pindai untuk mengunduh aplikasi Gate
Komunitas
Bahasa Indonesia
  • 简体中文
  • English
  • Tiếng Việt
  • 繁體中文
  • Español
  • Русский
  • Français (Afrique)
  • Português (Portugal)
  • Bahasa Indonesia
  • 日本語
  • بالعربية
  • Українська
  • Português (Brasil)